Pages

Introduction to Cisco Packet Tracer

หลังจากที่ได้ศึกษาตำรา เนื้อหา ฝึกปรือด้านทฤษฎีมาพอสมควร เชื่อว่า ความรู้คงอยู่ในขั้นที่พอจะออกแบบ แก้ไขปัญหา เกี่ยวกับระบบเครือข่ายได้มากขึ้นแล้ว คราวนี้จะเป็นการทำแล็บ ทดสอบความรู้ที่ได้ศึกษามา แต่ทำยังไงได้ เมื่ออุปกรณ์เครือข่ายมันช่างแสนแพง จึงจำเป็นต้องเรียนรู้จากการจำลอง หรือ Simulation โดยใช้โปรแกรม Cisco Network Tracer โดยที่โปรแกรม สำหรับการจำลองเครือข่ายก็มีหลายโปรแกรมให้ลองใช้เช่น Boson Net Sim, Graphic Network Simulator (GNS) เป็นต้น แต่สำหรับผมเองได้ลองใช้งานโปรแกรมดังที่กล่าวมาแล้ว แต่ก็ไม่ถูกใจเท่าไหร่ คงเป็นเพราะเครื่องคอมผมก็ค่อนข้างเก่าแล้ว ทำให้การ Sim นั้นช้าเป็นเต่าไปได้โดยไม่ต้องสงสัย แต่สำหรับ Packet Tracer นั้นสามารถทำงานได้ค่อนข้างเร็ว ซึ่งทำให้ เอนเอียงมาใช้ Packet Tracer ซะเป็นหลัก

การใช้งานก็ค่อนข้างง่าย โดยที่เราสามารถคลิกเลือกอุปกรณ์ แล้ววางลงไปยัง Work space ได้เลย และเลือกการเชื่อมต่อ ว่าจะใช้สายสัญญาณลักษณะไหนเช่น สาย Coaxial, UTP, Serial DTE, Serial DCE และ Fiber Optic เป็นต้น ส่วนการ Configure อุปกรณ์ทำได้โดยการ กดเลือกที่อุปกรณ์นั้นๆ แล้วทำการ Configure โดยใช้คำสั่ง Ciso IOS โดยที่สังเกตว่า จุดระหว่างจุดเชื่อมต่อนั้น ถ้าเป็นสีแดง แสดงว่าไม่ได้เชื่อมต่อ หรือ Configure ไม่ถูกต้อง แต่ถ้าเป็น สีเขียว แสดงว่า ระหว่างอุปกรณ์นั้นสามารถเชื่อมต่อกันได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคำสั่งที่ใช้ในการ Configure สำหรับคนที่มองโทโปโลยีของเครือข่ายออกก็จะสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว แต่มีข้อควรทราบอย่างหนึ่งของโปรแกรมนี้คือ อุปกรณ์ที่มีในโปรแกรม Cisco Packet Tracer นั้นจะเป็นอุปกรณ์เครือข่ายของ Cisco ทั้งหมด ซึ่งระดับอุปกรณ์ และคำสั่งนั้นก็จะอยู่ในระดับของ CCNA เท่านั้น ถ้าใครต้องการทำแล็บที่สูงกว่า CCNA แล้วนั้นก็ต้องเปลี่ยนไปใช้โปรแกรม Simulator ตัวอื่นอย่างเช่น GNS เป็นต้น

ถ้าผู้ใดสนใจก็สามารถดาวโหลดแล็บไฟล์ ตามเว็บต่างๆ แล้วมาฝึกทำแล็บ ก็จะเป็นการเพิ่มทักษะด้านการใช้คำสั่ง Cisco IOS และยังสามารถเรียนรู้และเข้าใจ Network Protocols ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Routing Protocols (RIP, RIPv2, OSPF, IGRP, EIGRP) หรือจะเป็น Switching Protocols (STP) เป็นต้น และยังฝึกการออกแบบ VLAN ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการฝึกฝนทางด้าน WAN หรือทำความเข้าใจเกี่ยวกับ WAN โปรแกรมนี้ก็ยังมีอุปกรณ์สำหรับ WAN ไว้ไม่ว่าจะเป็น Lease Line, ISDN, Frame Relay ไว้ให้ลอง Configure กันได้ตามโจทย์อีกด้วย โดยส่วนตัวแล้ว โปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่ดีมากๆ โปรแกรมหนึ่งที่ทำให้คนที่สนใจงานทางด้าน Computer Network นั้นสามารถฝึกประสบการณ์ และทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครือข่ายได้เป็นอย่างดี และในหลายๆ กรณีที่วิศวกรเครือข่ายเองก็ต้องทำการจำลองการแก้ปัญหา เพื่อทดสอบระบบก่อน นำ Solution ไป Integrate เข้ากับระบบจริง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหากับเครือข่าย

คราวนี้ก็เป็นเพียงแนะนำโปรแกรมสำหรับ Network Simulator เท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าหลายๆ คนคงได้ลองใช้โปรแกรมนี้มาบ้างแล้ว คราวหน้ามาลองใช้คำสั่งพื้นฐานเบื้องต้นกันบ้าง

ตัวอย่างหน้าตา ของ Packet Tracer

Linux Mint 12 (Lisa)

Linux Mint เป็น Linux Distro น้องใหม่ที่มาแรง ไม่แพ้ Linux รุ่นพี่อย่าง Ubuntu แต่เนื่องด้วย Linux Mint นั้น เป็น Linux ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Ubuntu ทำให้การใช้งาน Linux Mint นั้นก็ยังคงเหมือนกับ Ubuntu ซึ่งผมเองก็ใช้ Linux ทั้งสอง Distro แต่ก็ตกลงปลงใจ เอนเอียงให้กับทาง Linux Mint ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่คงเป็นเพราะไม่ชอบ Unity Interface ของ Ubuntu ละมั้ง แต่โดยส่วนมากการใช้งานสำหรับผมเองก็ยังเน้นไปที่การใช้งาน Command Line เป็นส่วนมาก คงเป็นเพราะเป็นมนต์เสน่ห์ของ Linux ที่เราสามารถใช้คำสั่ง Command Line ได้ง่าย และสะดวก กว่าการเรียกโปรแกรมที่เป็น GUI มา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับใช้งานแต่ละบุคคล โดยการทำงานของผมนั้น ถ้ามีโปรแกรมที่ต้องใช้งานบนวินโดว์ ผมก็จะใช้ VirtualBox จำลอง WindowsXP ไว้ใช้งานในบางอย่างที่โปรแกรมไม่มี Support Linux อย่างเช่นเรื่อง เอกสาร Linux ก็มี Libre Office แต่เนื่องด้วยตัวอักษร หรือการจัดหน้า เพราะเมื่อเอาไปปรินท์ หรือเอาไปแชร์กับคนอื่นแล้ว การจัดหน้า และแบบอักษรบน Linux ก็ไม่เหมือนชาวบ้านเขาอยู่ดี จึงจำเป็นต้อง จำลอง Windows เพื่อใช้งาน MS Office แต่ทั้งนี้ การเล่นเว็บดูหนังหรือการ Entertain ต่าง ที่เรียกว่า Life Style ของผมเองนั้น Linux มีคำตอบให้ผมทุกอย่างครบถ้วน

ใครที่สนใจทดลองก็สามารถเข้าไปดาวโหลดได้ที่เว็บ http://www.linuxmint.com/ ซึ่ง Linux Mint นี้มีทั้งตัวที่พัฒนาต่อยอดจาก Ubuntu และเวอร์ชันที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Debian ซึ่งเรียกว่า LMDE เมื่อดาวโหลดเสร็จแล้วสามารถ Install ใส่Flash Drive ได้โดยไม่ต้อง Burn ใส่ CD โดยใช้โปรแกรม http://www.pendrivelinux.com/ สามารถเข้าไปดาวโหลดได้ฟรี จากที่ทดลองใช้ ทำให้ประสบการณ์การ Install ใส่แฟลชไดรว์นั้นดีทีเดียวเนื่องจากความเร็วในการ Install และการทดลอง แบบ Live นั้นเร็วกกว่าการใช้งานจาก CD หลายเท่าตัวเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถ Install จากตัว Flash Drive ได้เลยซึ่งถือว่าสะดวกมาก